EP:2 Trello การ์ด จัดเรียง ความสำคัญและ การทำงาน ของคุณ

ใน EP:1 เราเรียนรู้การเริ่มต้นใช้งาน Trello และสร้างกระดานงานส่วนตัวของเรากันแล้ว ใน EP:2 เราจะพาทุกท่านไปดูรายละเอียดของฟังก์ชั่นต่างๆ ใน การ์ด ว่าเพิ่มอะไรได้บ้าง ขีดความสามารถเป็นอย่างไรกันบ้าง เพราะเจ้าการ์ดนี้แหละ จะเป็นตัวสร้างสรรค์บอร์ด Trello ของคุณให้ จัดเรียง การทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หากใครอ่านไม่ทัน ตามอ่าน EP เก่าๆได้ตามนี้เลย

EP:1 เริ่มใช้งาน Trello แอพพลิเคชั่น ที่จะช่วยให้การ ทำงาน ไม่ว่าที่บ้าน หรือที่ทำงาน สะดวกและมี ประสิทธิภาพ มากขึ้น

Trello การ์ด คืออะไร มี การทำงาน อย่างไร มารู้จัก การ์ด กันเถอะ

การ์ด เป็นองค์ประกอบหน่วยย่อย ในรายการต่างๆ ของกระดาน Trello หน้าที่หลักคือเป็นเหมือนตัวแสดงรายละเอียด หรือ การทำงาน ต่างๆที่เราทำอยู่ จินตนาการง่ายๆ เหมือนกระดาษโน๊ต ที่เราเขียนแปะตู้เย็น นำมา จัดเรียง กันเป็นระบบ ยกตัวอย่างการใช้งานใน Trello เราใช้แทนลูกค้า 1 โปรเจ็ค ใน Sale Pipeline หรือ ใช้แทนกิจกรรมออกกำลัง 1 แพลนประจำวัน ในกระดานตารางออกกำลังของเรา

หน้าตาของ การ์ด แบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนหลักๆ ดังนี้

1. ส่วนรายละเอียด การ์ด โดยส่วนนี้ ใช้แสดงผล Description ของ การ์ด นั้น Module ต่างๆของ การ์ด เช่น Checklists ต่างๆ, ไฟล์แนบ, กำหนด Deadline การทำงาน และอื่นๆที่เราจะสามารถสร้างเพิ่มเติมใน การ์ด ได้
2. ส่วนข้อมูลกิจกรรมต่างๆ ส่วนนี้ ใช้แสดงกิจกรรมต่างๆที่ได้กระทำ ความคืบหน้า ข้อเสนอแนะ คอมเมนต์ต่างๆ ของสมาชิกบอร์ด เป็นลักษณะของ Log คล้ายๆ การตอบคอมเมนต์ต่างๆ ใน Facebook สามารถ Mention หรือ Reply กับสมาชิกต่างๆ ของกระดานได้
3. ส่วนเมนูการจัดการ การ์ด ส่วนนี้จะอยู่ด้านขวามือของ การ์ด ใช้สำหรับจัดการ Module ต่างๆของ การ์ด เรา หรือใช้จัดการ จัดเรียง สิ่งต่างๆใน การ์ด

ฟังก์ชั่นพื้นฐานของ Trello การ์ด

เราจะมาดูฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานของ Trello การ์ด ว่ามีสิ่งใดที่เราใช้งานได้บ้าง ในส่วนของการเพิ่มขีดความสามารถ การทำงาน ของ การ์ด ของเรากัน โดยการเพิ่มรายละเอียดต่างๆ อยู่ที่ตัวเมนูการจัดการของ การ์ด เรา

1. Member ใช้สำหรับเพิ่มเราเข้าเป็นผู้ทำงาน หรือเพิ่มผู้รับผิดชอบจัดการงานใน การ์ด นี้ เช่น งานโปรเจ็ครีโนเวทบ้านลูกค้า มีใครทำอยู่บ้างใน การ์ด นี้ ก็สามารถเพิ่ม-ลด เพื่อให้สามารถแบ่งงานและ ให้สมาชิกแต่ละคนเห็น การทำงาน และการรับผิดชอบของตัวเอง ในแต่ละโปรเจ็ค
2. Label ใช้สำหรับเพิ่มฉลากต่างๆ ที่จะใช้โน๊ต การ์ด เราว่าอยู่ในหมวดหมู่ใดในกระดาน โดยเราสามารถสร้าง Label ต่างๆไว้ในกระดานได้ เช่น จากงานรีโนเวท มี Label ที่สร้างไว้คือ งานแบบ งานเอกสาร งานช่าง เราก็สามารถสร้างและนำมาติดไว้ที่ส่วนของ การ์ด ได้
3. Checklist ส่วนนี้คือการเพิ่มรายการของงานที่ต้องทำ หากทำเสร็จแล้วก็สามารถติ๊กรายการออกได้ ยกตัวอย่างงานรีโนเวทนี้ มี 5 ส่วนงานหลัก คือ งานโครงสร้าง งานสี งานไฟฟ้า งานน้ำ งานตกแต่ง เราก็สร้าง Checklist ขึ้นมา หากงานใดเสร็จสมบูรณ์ ก็ติ๊กออกเพื่ออัพเดตความคืบหน้า โดยมีการแสดงเป็นเปอร์เซนต์ เพื่อให้มองภาพรวม การทำงาน ได้ง่ายขึ้น
4. Due Date หรือการกำหนด Deadline หรือวันครบกำหนด การทำงาน เพื่อจะได้เห็นว่า สิ่งใดต้องทำก่อนหลังนั่นเอง โดยหลังจากเรากำหนด Deadline ก็จะมีการแสดงผลที่หน้ารวมกระดานของเราเป็นสีๆ สีเขียว สีแดง สีเหลือง เพื่อช่วยให้เราบริหารจัดการงานได้ง่ายขึ้น
5. Attachment ใช้สำหรับอัพโหลดไฟล์ต่างๆ รูป เอกสาร หรือที่เกี่ยวข้องกับงานไว้ เหมือนเป็น Cloud ย่อมๆส่วนตัวของบริษัท หรือของเราเอง
6. Cover ใช้ในการอัพโหลดรูปภาพเพื่อใช้เป็นภาพ Cover ของ การ์ด แสดงผลในภาพรวมกระดาน
7. Power-Ups เป็นการเพิ่ม Module เสริมจากเซิร์ฟเวอร์กลางของ Trello เข้ามาใน การ์ด
8. Actions ใช้สำหรับจัดการงาน ย้าย การ์ด คัดลอก การ์ด สร้าง Template แชร์ การ์ด

การสร้าง Label ของ การ์ด

หลังสร้าง Element ของการ์ดแล้ว

มาดูตัวอยาง การ์ด กันเถอะ

ผมทำตัวอย่าง การ์ด ไว้ในเรื่องของการซ้อมเบสเรื่องกำลังนิ้วได้ดังนี้ครับ

การ์ดการซ้อมกำลังนิ้วของเบสบนหน้ากระดาน

Cover, Member, Label, Due Date, Description และ Checklists

Log Update กิจกรรม ความคืบหน้าด้านล่าง

หวังว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยเหลือการวางแผนต่างๆของงานทุกๆคน ให้สามารถทำงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และมีความสุขกับการทำงานในทุกๆวันครับ

ผู้ที่สนใจโหลด Trello มาใช้งานในระบบต่างๆ สามารถดูได้ตามลิ้งค์นี้ครับ

iOS : https://apps.apple.com/app/trello-organize-anything/id461504587

Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.trello

Mac : https://apps.apple.com/app/trello/id1278508951?ls=1&mt=12

Windows : https://www.microsoft.com/en-us/p/trello/9nblggh4xxvw?rtc=1&activetab=pivot:overviewtab

หรือจะเข้ามาพูดคุยกับเรา ก็สามารถพูดคุยกันได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/FlinkOneLift/

ติดตามบทความอื่นๆได้อีกที่ https://www.flinkone.com/blog/